2 มีนาคม 2554

Sleep and Health

The Best Natural Health Supplement is Quality Sleep: ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติคือการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

ในโลกนี้ไม่มีใครหลีกเลี่ยงความชราภาพได้ ทุกคนที่เข้าสู่วัยชราสุขภาพร่างกายจะทรุดโทรมเสื่อมถอยตามอายุไปด้วย หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เป็นเช่นนี้ เพราะเกิดจากการที่ร่างกายผลิต Growth Hormone ได้น้อยลง

Growth Hormone มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ ส่งผลให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยหนุ่มสาว หากมีการส่งเสริมให้ร่างกายกระตุ้นการผลิต Growth Hormone ได้อย่างเต็มที่คนเราก็จะสามารถรักษาช่วงเวลาที่ความนุ่มนวลไว้ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่ร่างกายจะผลิต Growth Hormone ได้อย่างเต็มที่คือ ช่วงเวลาที่คนเรานอนหลับสนิท (Deep Sleep) เท่านั้น


ดังนั้นการนอนหลับให้สนิทในช่วงวัยทารกจนถึงวัยหนุ่มสาวจะช่วยส่งเสริมให้ร่างกายเจริญเติบโต และพัฒนาถึงขั้นสูงสุดอย่างเต็มที่ ส่วนการนอนหลับให้สนิทในช่วงวัยชราจะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกายได้ แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงเวลาใดคนเราก็ควรนอนหลับอย่างมีคุณภาพ นอนหลับให้สนิทที่สุดในทุกคืนตลอดทุกช่วงชีวิต

หมอน คำเดียวสั้นๆแต่มีความหมายกับชีวิตคนเราจนไม่ควรมองข้ามหมอนอาจทำให้คุณหลับสนิท หรือตื่นขึ้นมาพร้อมกับฝันร้ายของการปวดเมื่อน อ่อนเพลีย
ที่สำคัญคนเรานอนหนุนหมอน อยู่รวม 1 ใน 3 ของวัน หรือจะพูดได้ว่า 1 ใน 3 ชีวิต แล้ววันนี้คุณใส่ใจในหมอนใบนั้นของคุณแล้วหรือยัง?

Deep Sleep

Deep Sleep may truly be Beauty Sleep: ช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของการนอนหลับคือ ช่วงเวลาที่คนเรานอนหลับได้สนิทที่สุด

          ในช่วงเวลาที่คนเรานอนหลับนักวิจัยได้ค้รพบว่าส่วนของสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจ และความมีมนุษย์สัมพันธ์จะได้รับการพักผ่อนเต็มที่ ต่อเมื่อร่างกายเข้าสู่สภาวะนอนหลับสนิทเท่านั้น

          ดังนั้นคนที่ผ่านการนอนหลับสนิทอย่างเต็มที่ จะเริ่มชีวิตวันใหม่ด้วยความมีชีวิตชีวา มีอารมณ์แจ่มใส สามารถตัดสินใจกับปัญหารอบข้างได้อย่างรอบคอบ อดทนต่อสภาวะกดดันได้ดี ทั้งยังมีมนุษย์สัมพันธ์ และอัธยาศัยที่ดีต่อคนรอบข้าง จึงทำให้การนอนหลับสนิทนั้นถูกขนานนามว่า เป็นช่วงเวลาการนอนหลับที่ดีที่สุดทุกคนรู้ดีว่าการนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดเพราะเป็นช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนจะได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ร่างกายเราจะใช้ช่วงเวลานี้ในการซ่อมแซมตัวเอง

ปัจจัยที่สำคัญที่เพิ่มคุณภาพการนอนหลับสนิทยิ่งขึ้น

1.     การคลายแรงกดทับต่อเส้นประสาท และเส้นเลือด
2.     ระบบเลือดไหลเวียนสะดวกเพื่อนำออกซิเจน และสารอาหารสู่อวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย

ทั้ง 2 ปัจจัยช่วยส่งเสริมให้กระบวนการสำคัญๆ ในร่างกายและจิตใจขณะหลับเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ เช่น การซ่อมแซมร่างกาย การฟื้นฟูพลังงาน และการปรับสภาพจิตใจ ดังนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่คุณจะรู้สึกได้ถึงความสดชื่น มีพลังงานเต็มเปี่ยมและจิตใจที่แจ่มใส


เทคโนโลยียุคปัจจุบันและอนาคต เพื่อการนอนอย่างมีคุณภาพ
         
          ผลจากการวิจัย พบว่าการออกแบบสปริงและวัสดุที่นอน ให้มีลักษณะสปริงตัวได้ดีเพื่อป้องกันการปวดหลังนั้น กลับพบว่าทำให้ผู้นอนนั้นได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ถึงแม้จะนอนได้เต็มที่ครบ 8 ชั่วโมง จากการสังเกตพบว่า ผู้นอนมักมีการพลิกตัวบ่อยๆโดยที่ไม่รู้สึกตัวในขณะหลับ อันเป็นสาเหตุมาจาก การไหลเวียนที่ไม่สะดวกของโลหิต เนื่องด้วยน้ำหนักตัวของผู้นอนที่กดทับลงบนร่างการส่วนที่สัมผัสกับที่นอน (Pressures Point) ผู้นอนจึงจำเป็นต้องพลิกตัวบ่อยๆ เพื่อคลายน้ำหนักกดบริเวณที่กดทับทำให้โลหิตไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณดังกล่าว

Keys to Quality Sleep

Keys to Quality Sleep: หนทางสู่การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

          ด้วยประโยชน์มากมายทั้งร่างกายและจิตใจที่ได้รับจากการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หรือการนอนหลับที่สนิท จึงได้ค้นคว้าข้อมูลกลไกลของการนอนหลับสนิท (Deep Sleep) และปัจจัยต่างๆที่ส่งเสริมในเกิดการนอนหลับได้อย่างสนิท พบว่า การเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองของคนขณะนอนหลับใน1คืน คลื่นสมองของคนหนุ่มสาวจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละชั่วโมง

รูปแบบการนอน (Sleep Pattern) พบว่าช่วงเวลาที่เกิด
         
          ภาวะการนอนหลับสนิท จะเกิดขึ้นใน 2 ช่วง คือ
1.     ช่วงการนอนแบบที่ทีการเกิดคลื่นสมองแบบช้า (Slow wave Sleep)
2.     ช่วงการนอนที่เข้าภาวะ R.E.M Sleep (Rapid Eye Movement Sleep)




ทั้ง 2 ช่วงเวลาดังกล่าว มีลักษณะร่วมกันที่สำคัญ คือ ร่างกายของผู้นอนจะไม่มีการขยับตัว หรือมีการเคลื่อนไหวน้อยมาก นั่นแสดงให้เห็นว่า การเคลื่อนไหว หรือพลิกตัวของร่างกายมีความสัมพันธ์โดยตรงกับคุณภาพการนอนหลับ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่ตื่นนอนขึ้นมาถึงไม่รู้สึกสดชื่น นอนไม่พอ เป็นเพราะเวลานอนนั้นหากมีการนอนพลิกตัวบ่อยมากเกินไปจะทำให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ

How to choose a right pillow


Getting a good pillow is very important; it effects your health in long run: หมอนที่ดีถือเป็นอีกสิ่งจำเป็นในชีวิต เพราะมีผลต่อสุขภาพชีวิตในระยะยาว

          เรื่องของหมอนนั้นต้องถือว่าเป็นของส่วนตัวอีกชิ้นหนึ่ง ที่มักถูกพูดถึงกันน้อยมาก บ้างก็ถูกมองข้าวความสำคัญไป แต่ความจริงแล้วก่อนจะเลือกซื้อหมอนนั้นมีเรื่องที่เราต้องนำมาพิจารณนอยู่หลักๆ 4 ข้อด้วยกันคือ
1.     เป็น เรื่องของขนาด แต่ละคนก็ชอบขนาดหมอนที่เล็กใหญ่แตกต่างกันไป บางคนก็ชอบมีหมอนกองเต็มเตียง แต่พอเอาเข้าจริงตอนนอนก็ใช้หมอนแค่หนึ่งหรือสองใบแค่นั้นเอง
2.  ถัดมาต้องดูว่าหมอนมี ความสามารถในการรองรับ ดีพอหรือไม่ ควรจะทดสอบความแน่นของหมอน โดยที่ถ้ามันมีแรงดัน นิดหน่อยก็แสดงว่าจะรองรับศีรษะได้มากกว่า สำหรับคนที่มักจะนอนหงายควรเลือกหมอนที่ต่ำและนิ่มกว่าเพื่อให้คออยู่ในตำแหน่งที่สบาย แต่ถ้าเป็นคนชอบนอนตะแคง ควรจะเลือกหมอนสูงกว่าสักหน่อย เพื่อจัดแนวสันหลังให้อยู่ในแนวตรงที่พอเหมาะพอดี หมอนที่ดี ควรเป็นหมอนที่รองรับศรีษะและต้นคอให้อยู่ในแนวระนาบเดียวกับกระดูกสันหลัง จะช่วยให้หลับอยู่ในท่าที่สบายและเป็นธรรมชาติได้ตลอดทั้งคืน หมอนที่ดีสำหรับแต่ละคนต่างกันไปตามลักษณะท่านอนและปัญหาสุขภาพส่วนตัวเป็นสำคัญ


ถ้าหมอนที่ใช้ไม่เหมาะกับผู้ใช้ นอกจากจะทำให้นอนหลับไม่สนิทแล้วยังก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปวดกล้ามเนื้อที่บริเวณคอ ไหล่ และหลังเรื้อรัง หมอนที่ดีต้องไม่สูงหรือเตี้ย นุ่มหรือแข็งจนเกินไป หมอนที่เตี้ยเกินไปจะทำให้เกิดอาการมึนศรีษะ หน้าและหนังตาบวม หมอนที่สูงเกินไปจะทำให้ปวดแขนและนอนกรนได้ หรือหมอนที่แข็งเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาตกหมอน เลือดไปเลี้ยงศรีษะไม่สะดวก
3.  ต้องรู้ก่อนว่าตัวเรา เป็นโรคภูมิแพ้อะไรหรือเปล่า อย่างบางคนแพ้ปุยนุ่น หรือละอองขนเป็ดขนไก่ที่ใช้เป็นวัสดุไส้ในของหมอน ก็ต้องหลีกเลี่ยงวัสดุที่เราแพ้เหล่านั้น ไปใช้อย่างอื่นแทน อาจจะเป็นโฟม โพลีเอสเตอร์ หรือวัสดุธรรมชาติอย่างอื่น เป็นต้น
4.  สุดท้ายเป็นเรื่องของ การดูแลรักษา ควรใช้ปลอกหมอนกันเปื้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานไปได้นาน ๆ เพียงแค่นี้ก็คงจะพอช่วยให้นอนหลับฝันดี มีภูมิคุ้มกันโรคหวัดกันได้อย่างง่ายๆ ต่อไปตราบนาน

Let me introduce you the nutrition bedding products and personal pillow

อันที่จริงคอนเซ็ปต์ “Personal pillow” นั้นไม่ใช้เรื่องใหม่ โดยเฉพาะในอเมริกาซึ่งให้ความสำคัญกับการนอนหลับเป็นอย่างมากจนถึงกับจัดตั้ง National Sleep Foundation ขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราว หรือแม้แต่โรงแรมระดับห้าดาว หลายแห่งก็ใช้เมนูหมอน (Pillow Manu) เพิ่มระดับความหรูหราให้แก่โรงแรมอีกด้วย
          และด้วยกระแสดูแลสุขภาพที่มีมากขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการนอน หมอนจึงไม่ได้มีแค่นุ่น ขนเป็ด หรือใยสังเคราะห์เท่านั้น แต่ยังมีวัสดุใหม่ๆที่ถูกคิดค้นและวิจัยเพื่อนำมาเป็นวัสดุในการทำไส้หมอนเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคในการนอนของแต่ละบุคคลให้มากที่สุด
          
ขนอ่อนของเป็ด ขนอ่อนของห่านหรือ ขนนกผสมขนเป็ด ให้สัมผัสที่นุ่มฟูและแน่ คืนตัวได้ดีและรวดเร็วมากโดยเฉพาะขนห่าน และก็มีราคาที่แพงมากเช่นกันโดยเฉพาะขนห่าน ไม่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้


 กลุ่มวัสดุสังเคราะห์ เช่น ใยสังเคราะห์ และไมโครไฟเบอร์ ให้สัมผัสนุ่ม ปราศจากไรฝุ่น เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์ ราคาถูกแต่ไม่คงทน,เมมเมอรี่ โฟม (Memory Foam) เป็นวัสดุพิเศษ เป็นหมอนที่มีส่วนโค้งรองรับกับกระดูกต้นคอ ศรีษะ หัวไหล่ และหลัง ไม่นิ่มฟู หรือยางพารา (Latex) เป็นหมอนที่มีส่วนโค้งเว้าเช่นกัน แต่แข็งกว่า และระบายอากาศได้ไม่ดีนัก



หมอนสมุนไพร ทำจากแกลบผสมสมุนไพรหอม เช่น กุหลาบ ใบเตย ใบยูคาลิปตัส หรือกลีบดองลาเวนเอดร์ เป็นต้น แกลบช่วยพยุงศรีษะ และต้นคอ ส่วนกลิ่นหอมของสมุนไพรนั้นจะช่วยให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และหลับสนิทดียิ่งขึ้น



หมอนธัญพืช ถือเป็นไส้หมอนอีกกลุ่มหนึ่งที่มาแรงในระยะหลัง เช่น หมอนที่ทำจากเปลือกโซบะ(Buckwheat Hull) ซึ่งหมอนชนอดนี้ใช้กันมานานแล้วในญี่ปุ่น ลักษณะคล้ายถุงทรายจึงปรับระดับสูงต่ำของรูปทรงได้ตามต้องการ ถ่ายเทอากาศและยังระบายความชื่นได้ดี แต่มีเสียงดังบ้างเมื่อขยับศรีษะ และอาจต้องระวังแมลงบางชนิด



นอกจากนี้ยังมีไส้หมอนอื่นๆ เช่น ฟองน้ำญี่ปุ่น หญ้าญี่ปุ่นบางชนิด หรือถ่านไม้ไผ่ที่ช่วยเพิ่มกลิ่นของธรรมชาติ รักษาระดับความชื้นในหมอนไม่ให้แห้งหรือชื้นจนเกินไป ขณะที่ภ่านไม้ไผ่ยังมีประจุลบที่ทำให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และดูดซับกลิ่นได้ด้วย